เตือนภัย เพลี้ยไฟ ศัตรูพืชตัวร้าย ทำลายได้ทั้ง ไม้ผลไม้ดอก

ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Last Updated on มกราคม 8, 2025 by admin

เพลี้ยไฟ มีจำนวนแยกย่อย ถึง 6000 ชนิด แต่เพลี้ยไฟที่เป็นปัญหาหลักๆ ที่เข้าทำลายผลผลิต อยู่ในประเทศไทย
มีประมาณ 10 ชนิด เช่นเพลี้ยไฟมะม่วง หรือเพลี้ยไฟฝ้าย เพลี้ยไฟหอม เพลี้ยไฟพริก เพลี้ยไฟมังคุด
หรือแม้กระทั่ง ไม้ดอกสวยๆก็มีเพลี้ยไฟชนิดที่ชอบเข้าทำลายอยู่เช่นกัน

ลักษณะของเพลี้ยไฟ

ขนาดเล็ก: ตัวเต็มวัยมีขนาดเล็กมาก ยาวประมาณ 0.5-5 มิลลิเมตร ทำให้มองเห็นได้ยากด้วยตาเปล่า มักต้องใช้แว่นขยายช่วย
รูปร่าง: ลำตัวเรียวยาว มีสีเหลือง น้ำตาล หรือดำ ขึ้นอยู่กับชนิด
ปีก: มีปีกเป็นแผงแคบๆ มีขนเป็นแผงอยู่โดยรอบ ทำให้ดูคล้ายเส้นผม
ปาก: เป็นแบบปากเขี่ยดูด ใช้สำหรับดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช

ลักษณะการเข้าทำลาย

เพลี้ยชนิดนี้ เป็นศัตรูพืช ที่มีขนาดค่อยข้างเล็ก ตัวใหญ่สุดมีขนาดไม่เกิน 2-3 มม. มีปีกเรียวยาว 2 คู่ ปีกมีขนเล็กๆคล้ายขนนก เพลี้ยไฟมีขนาดเล็กจึงบินไม่ได้ไกล แต่จะแพร่กระจายไปด้วยลมซะมากกว่า การทำลาย เพลี้ยไฟจะใช้กรามข้างซ้ายในการขูด เนื้อเยื่อด้านนอกของพืช ทำให้เห็นเป็นขีดสีขาวๆที่เซลล์ของพืชบริเวณนั้น
หากเป็นไม้ดอกเช่นกล้วยไม้ถูกทำลาย ก็จะเห็นสีที่ดอกหายไป จากนั้นเพลี้ยไฟก็จะดูดน้ำเลี้ยงจากพืชกินเป็นอาหาร
จากบริเวณแผลที่สร้างขึ้น เมื่อมีแผลเปิดออกที่บริเวณเซลล์ น้ำเลี้ยงก็จะระเหยออก แผลจากสีขาวก็จะเปลี่ยนเป็น
สีน้ำตาล หรืออาจจะเป็นสีดำ เมื่ออากาศแห้ง คล้ายถูกเผาไหม้ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่าเพลี้ยไฟ

นอกจาก การเข้าทำลายดูดการขูดผิวเซลล์และดูดกินน้ำเลี้ยงแล้ว ในพืชผลบางชนิด เพลี้ยชนิดนี้ ยังสามารถเป็น
พาหะของเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในพืชได้อีกด้วย

วงจรชีวิตของเพลี้ยไฟ

เพลี้ยไฟมีวงจรชีวิตแบบไม่สมบูรณ์ (Hemimetabolous) ประกอบด้วยระยะต่างๆ ดังนี้:

ไข่: เพลี้ยไฟตัวเมียวางไข่ในเนื้อเยื่อพืช
ตัวอ่อนวัยที่ 1 และ 2: มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่มีขนาดเล็กกว่า ไม่มีปีก
ดักแด้: มี 2 ระยะ คือ ดักแด้ก่อนเข้าดักแด้ (Prepupa) และดักแด้ (Pupa) ระยะนี้เพลี้ยไฟจะไม่กินอาหาร
ตัวเต็มวัย: มีปีก สามารถเคลื่อนย้ายและแพร่พันธุ์ได้

วงจรชีวิตของเพลี้ยไฟค่อนข้างสั้น ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความชื้น โดยเฉลี่ยประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทำให้เพลี้ยไฟสามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว

วิธีป้องกันและกำจัด

1 เพลี้ยชนิดนี้มักจะระบาดในช่วงอากาศแห้งแล้ง พืชสูญเสียน้ำในช่วงนี้มากกว่าปกติอยู่แล้ว
หากโดนเพลี้ยชนิดนี้เข้าทำลาย ก็ยิ่งทำให้ความเสียหายรุนแรง ดังนั้น การลดความเสียหาย
ก็คือการรักษาความชุ่นชื้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง นอกจากนี้การรดน้ำ ยังเป็นการช่วยลด
เพลี้ยที่เกาะอยู่ตามต้นอีกด้วย
อาจจะพิจารณาทำการ ติดตั้งระบบ สปริงเกอร์ เพื่อช่วยให้การรดน้ำ ง่ายขึ้น
2 หมั่นคอยกำจัดวัชพืช ที่อาจจะเป็นที่อยู่อาศัยของเพลี้ยเหล่านี้
3 เพลี้ย เองมีศัตรูตามธรรมชาติของมันอยู่ เกษตรกรจึงควรหมั่นอนุรักษ์ ศัตรูตามธรรมชาติเหล่านี้ไว้
ขอให้ระมัดระวังการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์ รุนแรง เนื่องจาก เป็นการทำลาย สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์เหล่านี้ไปด้วย
4 หมั่นฉีดพ่นสารชีวภัณฑ์ ที่มีฤทธิ์ในการป้องกันกำจัด เพลี้ยเล่านี้เป็นประจำ
5 หากเกิดการระบาดรุนแรง จนยากจะควบคุม อาจจำเป็นต้องใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงเข้าช่วย

สารเคมีที่นิยมใช้กำจัด

สารเคมีที่ใช้กำจัดเพลี้ยไฟมีหลายชนิด ควรเลือกใช้ตามความเหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด สารเคมีที่นิยมใช้ ได้แก่:

กลุ่มนีโอนิโคตินอยด์: เช่น อิมิดาคลอพริด ไทอะมีทอกแซม
กลุ่มสไปโนซิน: เช่น สไปนีโทแรม สไปโนแซด
กลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต: เช่น ไพรไทโอฟอส
กลุ่มคาร์บาเมต: เช่น คาร์โบซัลแฟน
ฟิโพรนิล: เป็นสารกำจัดแมลงในวงกว้าง

ข้อควรระวัง
เพลี้ยไฟสามารถดื้อยาได้ง่าย ควรใช้สารเคมีสลับกลุ่ม และใช้ในอัตราที่แนะนำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในระยะที่พืชออกดอก เพื่อป้องกันอันตรายต่อแมลงผสมเกสร ควรพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้ ก่อนการใช้สารเคมี

เพลี้ยไฟ จัดเป็นศัตรูพืช ที่มีความสำคัญอย่างมาก ใน1ปีมีผลผลิตเสียหายจากการเข้าทำลายของมันมหาศาล
การแพร่ระบาดก็สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การหมั่นป้องกัน หรือทำการกำจัดในช่วงที่
การแพร่ระบาดเกิดขึ้นเล็กน้อย นั้นทำได้ง่ายกว่า และประหยัดค่าใช้จ่ายกว่ามาก

เรื่องของศัตรูพืช นั้น ป้องกันไว้ ดีกว่า แก้ปัญหามาก ง่ายกว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า
ที่สำคัญ อย่าลืมว่า หากเกิดการระบาด เกิดขึ้น นอกจาก ท่านจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
ในการกำจัดแล้ว กำไรที่ได้ก็ยังลดลง จากผลผลิตที่เสียหาย อีกต่างหาก

กำลังมองหา ตัวช่วยดีๆ ในการกำจัดเพลี้ยไฟอยู่รึเปล่า? สั่งซื้อได้ที่นี่เลย
ที่ร้าน lucky worm เรามีทั้ง ชีวภัณฑ์ ออแกนิค ที่ใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช และสารเคมีที่ใช้กำจัดแมลง
เรามีใบอนุญาติขาย เคมีเกษตร ถูกต้องตามกฎหมาย ออกโดย กรมวิชาการเกษตร

ชีวภัณฑ์