มกราคม 18, 2025

Blog

แนะนำ ไม้พุ่มทนแดด 15 ชนิด ที่จะทำให้สวนของคุณดูดีตลอดปี

คลังบทความ
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Last Updated on มกราคม 16, 2025 by admin

ไม้พุ่ม หมายถึงอะไร?

ไม้พุ่ม (Shrub หรือ Bush) คือ พืชยืนต้นที่มีขนาดเล็กกว่าไม้ยืนต้น (Tree) มีลักษณะเด่นคือ มีลำต้นเตี้ย แตกกิ่งก้านตั้งแต่ระดับดินหรือใกล้ดิน ทำให้มีทรงพุ่มที่แผ่กว้างออกด้านข้างโดยทั่วไปแล้ว ไม้พุ่มจะมีความสูงไม่เกิน 5-6 เมตร แต่ก็มีบางชนิดที่อาจสูงได้มากกว่านั้น

ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้น การเลือกพรรณไม้สำหรับจัดสวนจึงต้องคำนึงถึงความทนทานต่อแสงแดดและความร้อน ไม้พุ่มเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการจัดสวน เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามและมิติให้กับสวนแล้ว ยังมีประโยชน์ใช้สอยอีกมากมาย เช่น บังสายตา บังลม หรือช่วยลดอุณหภูมิ บทความนี้จะแนะนำ 15 ไม้พุ่มทนแดดที่เหมาะกับการปลูกในประเทศไทย ให้สวนของคุณสวยงามและเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี

แนะนำ ไม้พุ่มทนแดด 15 ชนิดที่เหมาะกับการปลูกในประเทศไทย

1. พยับหมอก

ไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีดอกสีฟ้าสดใส รูปทรงคล้ายลำโพง ออกดอกตลอดปี ชอบแสงแดดจัดและดินระบายน้ำดี นิยมนำมาปลูกเป็นแนวรั้วหรือขอบสวนเพื่อเพิ่มความสดชื่น

2. บานบุรี

ไม้พุ่มกึ่งเลื้อยที่มีดอกสีเหลืองสดใส ทรงดอกคล้ายระฆัง ดอกบานสะพรั่งตลอดปี ดูแลง่ายและทนต่อแสงแดดจัด นิยมนำมาปลูกตกแต่งกำแพงหรือริมทางเดิน

3. นีออน

ไม้พุ่มที่โดดเด่นด้วยดอกสีชมพูสด รูปทรงคล้ายดาว ออกดอกต่อเนื่องตลอดปี เป็นพืชที่ทนแดดและเหมาะสำหรับการตกแต่งพื้นที่ที่ต้องการสีสันสดใส

4. พุดศุภโชค

ไม้พุ่มเตี้ยที่มีดอกสีขาวกลิ่นหอม สามารถออกดอกตลอดปีและทนแดดได้ดี นิยมปลูกบริเวณทางเดินหรือสวนหน้าบ้าน เพื่อเพิ่มบรรยากาศหอมสดชื่น

5. เทียนทอง

ไม้พุ่มใบสีเหลืองทองที่เพิ่มความสวยงามให้สวน ใบมีลักษณะเล็กและหนาแน่น ดอกสีม่วงขนาดเล็กช่วยเสริมความโดดเด่น ปลูกเป็นแนวรั้วหรือตกแต่งสวน

6. ข้าวตอกพระร่วง

ไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดอกสีขาวหรือขาวอมชมพู จะออกดอกในช่วงฤดูหนาว นิยมปลูกเป็นไม้ประดับหรือไม้ริมรั้ว

7. หลิวไต้หวัน

ไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีดอกสีม่วงอมชมพู ออกดอกตลอดปีและชอบแสงแดดจัด ใบเรียวเล็ก ทรงพุ่มกระทัดรัด เหมาะสำหรับปลูกในกระถางหรือประดับสวนหิน

8. แวววิเชียร

ไม้พุ่มที่มีดอกหลากสี เช่น ม่วง ชมพู ขาว หรือแดง ออกดอกตลอดปี ใบเรียวยาวสีเขียวเข้ม นิยมใช้ในการจัดสวนเพื่อเพิ่มความหลากหลายของสีสัน

9. หนวดปลาหมึกแคระ

ไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีลักษณะเด่นคือใบเขียวเข้มและดอกสีชมพูเล็ก ๆ ทนแดดจัดได้ดี มักใช้ตกแต่งสวนกระถางหรือสวนขนาดเล็ก

10. ประทัดจีนดอกขาว

ไม้พุ่มขนาดกลางที่มีดอกสีขาว ทรงดอกเป็นรูปหลอดยาว ออกดอกตลอดปี ทนแดดและเหมาะกับสภาพอากาศร้อน นิยมปลูกตามขอบสวนหรือทางเดิน

11. บานเช้าสีเหลือง

ไม้พุ่มที่มีดอกสีเหลืองสด ดอกจะบานช่วงเช้าและหุบในช่วงบ่าย ชอบแสงแดดจัดและดินที่มีการระบายน้ำดี ปลูกได้ทั้งในกระถางและลงดิน

12. ฟ้าประดิษฐ์

ไม้พุ่มที่มีดอกสีฟ้าอมม่วง รูปทรงดอกเป็นช่อ ออกดอกตลอดปี ชอบแสงแดดจัดและเหมาะสำหรับการปลูกเป็นแนวรั้วหรือประดับสวนหน้าบ้าน

13. ประทัดไต้หวัน

ไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีดอกสีแดงสด ทรงดอกคล้ายประทัด ออกดอกต่อเนื่องตลอดปี นิยมปลูกเป็นไม้คลุมดินหรือขอบสวนเพื่อเพิ่มความโดดเด่น

14. สนใบพาย

ไม้พุ่มทรงตั้งตรงที่มีใบเดี่ยวขนาดเล็กสีเขียวเข้ม ทนแดดจัดได้ดี นิยมใช้ในการจัดสวนแบบโมเดิร์นหรือสวนสไตล์เขตร้อน

15. ผกากรอง

ไม้พุ่มเตี้ยที่มีดอกหลากสี เช่น ชมพู เหลือง ขาว ดอกมีลักษณะเป็นช่อ ออกดอกตลอดปี ทนแดดจัดได้ดี นิยมปลูกเป็นแนวรั้วหรือคลุมดินเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน

จุดประสงค์ของการปลูกไม้พุ่ม:

  1. เพื่อความสวยงามและสุนทรียภาพ:
    • เพิ่มมิติและความน่าสนใจ: ไม้พุ่มช่วยเพิ่มมิติให้กับสวน ทำให้สวนดูไม่ราบเรียบและน่าสนใจยิ่งขึ้น
    • สร้างจุดเด่น: สามารถใช้ไม้พุ่มที่มีรูปทรง สีสัน หรือดอกที่โดดเด่น เพื่อสร้างจุดสนใจในสวน
    • ตกแต่งพื้นที่: ไม้พุ่มสามารถใช้ตกแต่งพื้นที่ต่างๆ เช่น บริเวณหน้าบ้าน ริมรั้ว หรือตามทางเดิน
    • เพิ่มความหลากหลาย: การปลูกไม้พุ่มหลากหลายชนิด ช่วยเพิ่มความหลากหลายของสีสัน รูปทรง และพื้นผิวให้กับสวน
  2. เพื่อประโยชน์ใช้สอย:
    • บังสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัว: ไม้พุ่มที่ปลูกเป็นแนวรั้วหรือกลุ่ม สามารถช่วยบังสายตาจากภายนอกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้าน
    • บังลมและลดเสียงรบกวน: ไม้พุ่มที่ปลูกหนาแน่น สามารถช่วยบังลมและลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้
    • ป้องกันการกัดเซาะดิน: ไม้พุ่มที่ปลูกตามแนวลาดชัน สามารถช่วยป้องกันการกัดเซาะดินและรักษาหน้าดินได้
    • เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์: ไม้พุ่มบางชนิดเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กๆ เช่น นก ผีเสื้อ และแมลง ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้กับสวน
  3. เพื่อการจัดสวน:
    • กำหนดขอบเขตพื้นที่: ไม้พุ่มสามารถใช้กำหนดขอบเขตของพื้นที่ต่างๆ ในสวน เช่น แบ่งพื้นที่สวนดอกไม้ พื้นที่สนามหญ้า หรือพื้นที่พักผ่อน
    • สร้างฉากหลัง: สามารถใช้ไม้พุ่มเป็นฉากหลังให้กับไม้ดอกหรือองค์ประกอบอื่นๆ ในสวน
    • ปรับปรุงภูมิทัศน์: ไม้พุ่มช่วยปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรวมของพื้นที่ ทำให้ดูสวยงามและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
  4. เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม:
    • เพิ่มพื้นที่สีเขียว: การปลูกไม้พุ่มช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง ซึ่งช่วยลดมลภาวะและปรับปรุงคุณภาพอากาศ
    • ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์: เช่นเดียวกับพืชอื่นๆ ไม้พุ่มช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก และช่วยลดภาวะโลกร้อน

เคล็ดลับดูแลไม้พุ่ม: ให้สวยงาม แข็งแรง และอยู่กับคุณไปนานๆ

1. การรดน้ำ:

การรดน้ำเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของไม้พุ่ม ควรรดน้ำให้เหมาะสมกับชนิดของไม้พุ่มและสภาพอากาศ (

  • ความถี่: ควรรดน้ำเมื่อดินแห้ง สังเกตได้จากดินบริเวณผิวดินแห้ง หรือเมื่อยกกระถางแล้วรู้สึกว่าเบาลง ในช่วงฤดูร้อน ควรรดน้ำบ่อยขึ้น ส่วนในฤดูฝน ควรรดน้ำให้น้อยลง หรืออาจงดรดหากฝนตกชุก
  • ปริมาณ: รดน้ำให้ชุ่มทั่วบริเวณโคนต้น จนน้ำไหลออกมาจากรูระบายน้ำ แต่ระวังอย่าให้น้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่า
  • ช่วงเวลา: ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อลดการระเหยของน้ำ
  • วิธีการ: รดน้ำที่โคนต้น หลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรง เพื่อป้องกันการเกิดโรคเชื้อรา

2. แสงแดด:

ไม้พุ่มแต่ละชนิดต้องการแสงแดดที่แตกต่างกัน ควรศึกษาความต้องการแสงแดดของไม้พุ่มแต่ละชนิดก่อนปลูก (

  • ไม้พุ่มชอบแดด: ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
  • ไม้พุ่มรำไร: ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดในช่วงเช้าหรือบ่าย หรือมีร่มเงาบ้าง
  • ไม้พุ่มในร่ม: เหมาะสำหรับปลูกในที่ร่ม หรือมีแสงแดดน้อย

3. ดิน:

ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกไม้พุ่ม ควรเป็นดินร่วน ระบายน้ำได้ดี และมีธาตุอาหารเพียงพอ

  • การปรับปรุงดิน: หากดินไม่ดี ควรปรับปรุงดินโดยการเติมอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือแกลบ
  • การเปลี่ยนดิน: ควรเปลี่ยนดินในกระถางทุก 1-2 ปี เพื่อให้ดินมีธาตุอาหารเพียงพอและระบายน้ำได้ดี

4. การให้ปุ๋ย:

การให้ปุ๋ยจะช่วยบำรุงไม้พุ่มให้เจริญเติบโตแข็งแรง ออกดอกสวยงาม และมีสีสันสดใส

  • ปุ๋ยที่เหมาะสม: ควรใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือปุ๋ยอินทรีย์
  • ความถี่: ควรให้ปุ๋ยทุก 1-2 เดือน หรือตามคำแนะนำของปุ๋ยแต่ละชนิด
  • วิธีการ: โรยปุ๋ยรอบๆ โคนต้น โดยห่างจากโคนต้นเล็กน้อย แล้วรดน้ำให้ปุ๋ยละลาย

5. การตัดแต่งกิ่ง:

การตัดแต่งกิ่งจะช่วยควบคุมทรงพุ่ม กระตุ้นการแตกกิ่งใหม่ และทำให้ไม้พุ่มดูสวยงาม

  • ช่วงเวลา: ควรตัดแต่งกิ่งหลังดอกโรย หรือในช่วงฤดูพักตัวของไม้พุ่ม
  • วิธีการ: ตัดกิ่งที่แห้ง กิ่งที่ไขว้กัน กิ่งที่ยาวเกินไป หรือกิ่งที่เป็นโรคออก สำหรับไม้พุ่มที่ออกดอก ควรตัดแต่งกิ่งที่ให้ดอกแล้ว เพื่อกระตุ้นการออกดอกใหม่
  • การตัดแต่งทรงพุ่ม: สามารถตัดแต่งทรงพุ่มให้เป็นรูปทรงต่างๆ ได้ตามต้องการ เช่น ทรงกลม ทรงเหลี่ยม หรือทรงอิสระ

6. การป้องกันโรคและแมลง:

ควรสังเกตอาการของโรคและแมลงอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการผิดปกติ ควรรีบทำการรักษา

  • โรค: โรคที่พบบ่อยในไม้พุ่ม เช่น โรคเชื้อรา โรครากเน่า
  • แมลง: แมลงที่พบบ่อย เช่น เพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย หนอน
  • วิธีการป้องกันและกำจัด: ใช้สารป้องกันและกำจัดโรคและแมลงที่เหมาะสม

7. การพรวนดิน:

การพรวนดินรอบๆ โคนต้น จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี และรากได้รับออกซิเจนมากขึ้น

8. การกำจัดวัชพืช:

ควรกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบๆ โคนต้น เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากไม้พุ่ม

ไม้พุ่มทั้ง 15 ชนิดที่ได้กล่าวมานั้น ล้วนเป็นไม้พุ่มที่ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนและแสงแดดจัดของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับปลูกในสวนกลางแจ้ง หรือบริเวณที่ได้รับแสงแดดโดยตรง การเลือกไม้พุ่มเหล่านี้มาปลูก จะช่วยให้สวนของคุณสวยงาม เขียวชอุ่ม และมีชีวิตชีวาได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลที่ยุ่งยาก

หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @260afyhm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ

เพิ่มเพื่อน

error: Content is protected !!