ไพริดาเบน (Pyridaben) เป็นสารกำจัดไรศัตรูพืชที่มีประสิทธิภาพสูง ถูกนำมาใช้ในเกษตรกรรมอย่างแพร่หลายเพื่อควบคุมไรและแมลงศัตรูพืชต่าง ๆ โดยเฉพาะในพืชตระกูลส้มและพืชผลอื่น ๆ
กลไกการออกฤทธิ์
ไพริดาเบน เป็นสารในกลุ่มไพริแดซิโนน (pyridazinones) มีคุณสมบัติถูกตัวตายและกินตาย โดยกลไกการออกฤทธิ์ของไพริดาเบนคือการยับยั้งกระบวนการส่งผ่านอิเล็กตรอนในไมโทคอนเดรีย คอมเพล็กซ์ที่ 1 ส่งผลต่อระบบการสร้างพลังงาน ทำให้หยุดหายใจและตายในที่สุด
กล่าวคือจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานในเซลล์ของไร ทำให้ไรขาดพลังงานและตายในที่สุด กล่าวคือ สารนี้จะไปรบกวนกระบวนการสร้าง ATP (Adenosine Triphosphate) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ ทำให้ไรไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
จุดเด่น
1 ประสิทธิภาพสูงในการกำจัดไร สามารถกำจัดไรได้ทั้งในระยะไข่ ตัวอ่อน และตัวเต็มวัย ทำให้การควบคุมไรศัตรูพืชเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2 ออกฤทธิ์รวดเร็ว สารนี้มีคุณสมบัติถูกตัวตายและกินตาย ทำให้ไรและแมลงศัตรูพืชหยุดการทำลายพืชผลในเวลาอันสั้น
3 ความคงทนบนใบพืช สารนี้ มีความคงทนบนใบพืชได้นาน ช่วยให้การป้องกันศัตรูพืชมีระยะเวลายาวนานขึ้น
4 ใช้ได้กับพืชหลายชนิด เช่น มันสำปะหลัง พืชไร่ ไม้ผลทั่วไป
ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
1 พิษต่อสิ่งแวดล้อม: แม้ว่าสารนี้จะมีประสิทธิภาพในการกำจัดไร แต่การใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เช่น แมลงที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นควรใช้ตามคำแนะนำและปริมาณที่กำหนด
2 ความเป็นพิษต่อสัตว์น้ำ: ไพริดาเบนเป็นอันตรายต่อปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการใช้ใกล้แหล่งน้ำ
3 สารพิษตกค้าง : การใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้มีสารพิษตกค้างบนผลผลิต ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้และระยะเวลาการเก็บเกี่ยวหลังการใช้สารอย่างเคร่งครัด
4 การดื้อยาของศัตรูพืช การใช้สารนี้ซ้ำ ๆ อาจทำให้ไรและแมลงศัตรูพืชพัฒนาความต้านทานต่อสารนี้ ควรสลับการใช้กับสารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่นเพื่อป้องกันการดื้อยา
ข้อแนะนำในการใช้งาน
อ่านฉลากให้ละเอียด: ก่อนการใช้ ควรอ่านฉลากเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราการใช้ วิธีการผสม และข้อควรระวัง เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน: สวมหน้ากาก ป้องกันตา ถุงมือ และเสื้อผ้าที่มิดชิดขณะใช้สารเคมี
ผสมสารเคมีให้ถูกต้อง: ผสมสารเคมีให้เข้ากันดีก่อนนำไปฉีดพ่น
ฉีดพ่นให้ทั่วถึง: ฉีดพ่นให้ทั่วทั้งพืช โดยเฉพาะบริเวณที่พบไร
หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงที่มีลมแรง: เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีฟุ้งกระจายไปยังพื้นที่อื่น
งดการเก็บเกี่ยวผลผลิต: หลังจากการฉีดพ่น ควรงดการเก็บเกี่ยวผลผลิตตามระยะเวลาที่กำหนดบนฉลาก
ไพริดาเบนเป็นสารกำจัดไรที่มีประสิทธิภาพสูงและออกฤทธิ์รวดเร็ว แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังตามคำแนะนำเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้บริโภค การสลับการใช้สารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่น ๆ จะช่วยลดปัญหาการดื้อยาของศัตรูพืชได้
อ่านบทความดีๆกันแล้ว
แล้วอย่าลืม แอดไลน์ มาเป็นเพื่อนกัน เพื่อให้ท่านไม่พลาดข่าวสารและโปรโมชั่นดีๆจากทางร้าน