ไกลโฟเซต เป็นสารกำจัดวัชพืชประเภทดูดซึม ซึ่งทำให้วัชพืชแห้งตาย และยังจัดเป็นสารประกอบ ออแกโนฟอสฟอรัส โดยฟอสโฟเนตในสารประกอบดังกล่าว จะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ที่เรียกว่า
EPSP synthase ในวัชพืช ทำให้ วัชพืชแห้งตาย สารไกลโฟเซต ถูกค้นพบว่า มีฤทธิ์ในการกำจัดวัชพืช
ครั้งแรก เมื่อปี 1970 และได้มีการผลิตเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณชิย์เป็นครั้งแรกเพื่อปี 1974
คุณสมบัติ
ไกลโฟเซต เป็นสารกำจัดวัชพืชที่ใช้กำจัดได้ทั้งประเภท ใบกว้าง และ ใบแคบ แต่ใช้ได้ดีที่สุดกับ ชนิดใบแคบ
โดยเฉพาะ พวกที่มีหัวอยู่ใต้ดิน เช่นแห้วหมู หญ้าคา ไมยราบยักษ์เป็นต้น
สารชนิดนี้ พืชสามารถดูดซึมได้ทางใบ และสามารถดูดซึมได้เล็กน้อยผ่านทางราก ( ดังนั้น การพ่นสารชนิดนี้
การพ่นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต้องพ่นให้ถูกใบ การพ่นลงดินนั้นแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ) หลังจากพืช
ดูดซึมสารชนิดนี้เข้าไปผ่านทางใบ ไกลโฟเซตก็จะออกฤทธิ์ต่อส่วนที่มีการเจริญเติบโตของพืช โดยการยับยั้ง
เอนไซม์ที่ทำหน้าที่สังเคราะห์ กรดอะมิโน จำพวก อะโรมาติก ที่สำคัญของพืช 3 ชนิด ได้แก่ไทโรซีน ทริปโตเฟน
และ ฟีนิลอะลานีน การใช้สารกำจัดวัชพืชชนิดนี้ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรใช้ในช่วงที่วัชพืช กำลังเจริญเติบโต
และไม่สามารถใช้ เป็นสารควบคุมก่อนงอกได้
ผลกระทบ ต่อสุขภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน
ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ ไกลโฟเซต มากหมายหลายสูตรในท้องตลาด ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่กำกับดูแล
ให้สามารถ ผลิตและจำหน่ายได้ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับในด้านผลกระทบ ต่อสุขภาพของมนุษย์
จากสารกำจัดวัชพืชชนิดนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ในปัจจุบัน ( ผู้เขียน เขียนบทความ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2566)
รัฐบาลไทยยังอนุญาติ ให้จำหน่ายสารชนิดนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ ควรปฎิบัติตามคำแนะนำ บนฉลาก อย่างเคร่งครัด
ไม่ใช้เกินปริมาณที่กำหนด และ สวมเครื่องป้องกัน อย่างมิดชิดทุกครั้ง ก่อนฉีดพ่น
ไกลโฟเซต มีผลตกค้างในดินน้อยมาก เนื่องจากถูกจุลินทรีย์ในดินเป็นตัวย่อยสลาย ในปัจจุบัน สำนักงานคุ้มครองสิ่ง
แวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ได้มีการออกคำแนะนำ ให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการฉีดพ่นสารชนิดนี้
เป็นเวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมงหลังจากการฉีดพ่น
กำลังมองหา สารกำจัดวัชพืช อยู่รึเปล่า? สั่งซื้อได้ที่นี่เลย
หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ