Last Updated on มกราคม 5, 2025 by admin
แมลงศัตรูพืชนั้น มีหลายชนิด โดยมีการจัดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ก็คือแมลงปากกัดเช่นพวก หนอนที่กินใบไม้
และ แมลงปากกัด เช่นพวก เพลี้ย ซึ่งเข้าทำลายต้นไม้ด้วยการเจาะเพื่อดูดน้ำเลี้ยง
เพลี้ยแป้งเป็นแมลงขนาดเล็กที่มักพบเห็นได้ทั่วไปตามพืช ผลไม้ และดอกไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในร่มหรือที่มีความชื้นสูง เพลี้ยแป้งมักจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้พืชอ่อนแอ ใบเหลือง และร่วงหล่น หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจทำให้พืชตายได้
อาการของพืชที่ถูกเข้าทำลายโดยเพลี้ยแป้ง
เพลี้ยแป้งนั้น มักจะมาพร้อมกับมด และราดำ เนื่องจาก ทั้ง 3 สิ่งนี้มีภาวะเกื้อกูลกันอยู่ มดเป็นพาหนะชั้นดีให้กับเพลี้ยแป้ง เพลี้ยแป้งจะถ่ายของเสียออกมาเป็นมูลที่มีรสหวาน ซึ่งเป็นอาหารให้กับมดและราดำนั่นเอง
ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ต้นไม้ของท่านถูกทำลายโดยเพลี้ยแป้ง ก็มักจะเห็นการระบาดของราดำตามมา
พืชที่ถูกเพลี้ยแป้ง ดูดน้ำเลี้ยง จะหยุดการเจริญเติบโต และอาจเกิดอาการ ข้อถี่ หรือ ข้อสั้นขึ้นให้เห็น
ถ้าถูกทำลายที่บริเวณใบ ก็อาจจะเกิดอาการ ใบหงิกงอ ม้วน ก็เป็นได้ สำหรับพืชที่กำลังอยู่ในช่วงออกดอก
หากถูกเพลี้ยแป้งเข้าทำลายมากๆ พืชก็อาจจะทิ้งดอกได้ เนื่องจากต้องการรักษาปริมาณอาหารให้เพียงพอ
ลักษณะของเพลี้ยแป้ง
เพลี้ยแป้ง หรือ mealy bugs สาเหตุที่ได้ชื่อว่าเพลี้ยแป้งก็เพราะ เพลี้ยชนิดนี้จะสร้างสารที่มีลักษณะคล้ายแป้งขึ้นมาปกคลุมตัว เมื่อเพลี้ยแป้งรุมเข้าทำลายต้นไม้ จะสามารถสังเกตเห็นได้ว่า มีก้อนสีขาวๆ เข้าปกคลุมตามกิ่งก้านอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเพลี้ยแป้งสามารถใช้ปาก แทงเข้าไปทำลาย ได้แทบทุกส่วนของต้นไม้ แต่จะชอบมาก ในส่วนที่มีผิวอ่อนของต้นเพราะปากของเพลี้ยสามารถแทงเข้าไปได้ง่าย
ตัวเต็มวัยมีขนาดเล็ก ประมาณ 3-5 มิลลิเมตร รูปร่างรี ปกคลุมด้วยสารสีขาวคล้ายแป้งหรือขี้ผึ้ง
มักอาศัยอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ใต้ใบ กิ่ง ก้าน และราก
ดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้พืชอ่อนแอ เจริญเติบโตช้า และอาจนำไปสู่การตายของพืช
การแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้ง
เพลี้ยแป้งมักระบาดในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งเป็นช่วงที่มีสภาวะซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบของเพลี้ยแป้งมาก
แนวทางการป้องกัน
1 บำรุงรักษาต้นไม้ของท่านให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อให้ยากต่อการเข้าทำลาย
2 กำจัดได้ด้วยมือของท่าน หากพบเห็นการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้ง ในจำนวนที่ไม่มากนัก ท่านสามารถจับแล้วรูดออกจากกิ่ง,ต้นหรือใบได้ทันที
3 ในกรณีที่ระบาดมาก เกินกว่าจะใช้ มือ หรือไม้เขี่ยออก แนะนำให้ใช้ สารสกัดจากสะเดา หรือ น้ำส้มควันไม้ หรือ ชีวภัณท์อย่าง เมธาไรเซียมในการฉีดพ่น เพื่อป้องกัน
4 การใช้สารชีวภาพ: ใช้สารสกัดจากพืชสมุนไพร เช่น พริกสด กระเทียม และหอมแดง โดยนำมาปั่นผสมกับน้ำและน้ำยาล้างจานชนิดไม่มีสารฟอกขาว แล้วฉีดพ่นบนพืชที่มีการระบาดของเพลี้ยแป้ง
5 ใช้ยาแรง อย่างสารเคมี ** หากท่านเลือกที่จะใช้สารเคมี ก็ขอให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และพึงระลึกไว้ว่า สารเคมีที่ท่านใช้ อาจทำลายสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีประโยชน์ในบริเวณนั้นไปด้วย** สารเคมี ที่ใช้ได้ก็อย่างเช่น สตาร์เกิลจีเป็นต้น
สารเคมีที่นิยมใช้ในการกำจัดเพลี้ยแป้งเช่น
มาลาไธออน (Malathion): ใช้อัตรา 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว 2-3 ครั้ง ห่างกัน 10 วัน
ไพรีทรอยด์ (Pyrethroid): ใช้อัตราส่วนตามที่ระบุบนฉลาก ฉีดพ่นให้ทั่ว
คาร์โบซัลแฟน (Carbosulfan): ใช้อัตรา 50 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
ไทอะมีโทแซม (Thiamethoxam): ใช้อัตรา 4 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ไดโนทีฟูแรน (Dinotefuran): ใช้อัตรา 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
อิมิดาโคลพริด (Imidacloprid): ใช้อัตรา 4 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ควรฉีดพ่นสารเคมีในช่วงเย็นหรือเช้า และหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงที่ดอกบานหรือเริ่มติดผลอ่อน เพื่อป้องกันอันตรายต่อตัวเกษตรกรและสารเคมีที่จะตกค้างในผลผลิตและในดิน
การป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้งอย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้วิธีการผสมผสานระหว่างการป้องกัน การใช้สารชีวภาพ และการใช้สารเคมีอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาสุขภาพของพืชและความปลอดภัยของผู้บริโภค
เรื่องของศัตรูพืช นั้น ป้องกันไว้ ดีกว่า แก้ปัญหามาก ง่ายกว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า
ที่สำคัญ อย่าลืมว่า หากเกิดการระบาด เกิดขึ้น นอกจาก ท่านจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
ในการกำจัดแล้ว กำไรที่ได้ก็ยังลดลง จากผลผลิตที่เสียหาย อีกต่างหาก
กำลังมองหา ตัวช่วยดีๆ ในการกำจัดเพลี้ยแป้งอยู่รึเปล่า? สั่งซื้อได้ที่นี่เลย
ที่ร้าน lucky worm เรามีทั้ง ชีวภัณฑ์ ออแกนิค ที่ใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช และสารเคมีที่ใช้กำจัดแมลง
เรามีใบอนุญาติขาย เคมีเกษตร ถูกต้องตามกฎหมาย ออกโดย กรมวิชาการเกษตร
ชีวภัณฑ์
สารเคมีกำจัดแมลง
หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ