เมษายน 17, 2025

สินค้าของเรา

Blog

ประโยชน์และข้อจำกัดและ ประเภทของปุ๋ยทางใบ ที่ควรรู้ก่อนการใช้งาน

คลังบทความ
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Last Updated on กุมภาพันธ์ 7, 2025 by admin

พืชทุกชนิด ก็ต้องการ อาหารเช่นเดียวกับมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ซึ่ง ธาตุอาหาร ที่พืชต้องการมีด้วยกันทั้งหมด 17 ชนิด ส่วนใหญ่จะอยู่ในดิน ที่ เป็น เทหวัตถุธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับการที่พืชจะหยั่งรากลงเพื่อดูดซับธาตุอาหาร
มาใช้ในการเจริญเติบโต เมื่อพืชดูดธาตุอาหารในดินไปใช้ เราจึงจำเป็นต้องมีการ “เติม”ธาตุอาหารลงไป ซึ่งก็คือปุ๋ย
ในการให้ปุ๋ยนั้น นอกจากจะสามารถ เติมลงไปในดินแล้ว ยังมีปุ๋ยที่สามารถ ให้เข้าสู่ทางใบของพืชได้อีกด้วย
หรือ ที่เรียกกันว่า “ปุ๋ยทางใบ” นั่นเอง โดย จะแบ่งออกเป็น

1 ปุ๋ยเกล็ด หรือ ปุ๋ยเคมีในรูปแบบผลึก สามารถละลายน้ำได้ดี ใช้ฉีดพ่นบนใบพืช เพื่อให้พืชสามารถดูดซึม
ธาตุอาหารเข้าสู่ใบโดยตรง

2 ปุ๋ยน้ำ เป็นปุ๋ยเคมีที่อยู่ในรูปแบบของเหลว ซึ่งต้องนำมาผสมน้ำให้เจือจาง ก่อนการฉีดพ่นเข้าสู่ทางใบ
เช่นกัน

Q : ทำไมต้องให้สารอาหารพืชผ่านทางใบ?

A : เพื่อให้สารอาหารแก่พืชอย่างเร่งด่วน ในแบบที่ การให้สารอาหารผ่านทางดินหรือทางรากไม่สามารถทำได้

Q : เมื่อไหร่ที่ควรให้สารอาหารผ่านทางใบ?

A: เมื่อเกิดสภาวะบางอย่างที่ทำให้ พืชไม่สามารถดูดซึม อาหารผ่านทางรากได้อย่างปกติ เช่น
ดินอาจจะมีความไม่สมดุลของค่า PH หรือ รากพืชเกิดความเสียหาย จากศัตรูพืช หรือโรคพืช
A2 : หากพืชแสดงอาการว่าขาดสารอาหารอย่างเห็นได้ชัด และท่านต้องการ เพิ่มสารอาหาร
เข้าไปในพืชโดยเร็วที่สุด
A3 : ในกรณีที่ผู้ปลูก ต้องการเร่งการเจริญเติบโต ด้านในด้านนึงของพืชโดยเฉพาะ เช่น
บำรุงดอก บำรุงใบ หรือ บำรุงผล เป็นต้น

ประโยชน์ของปุ๋ยทางใบ

  • การแก้ไขภาวะขาดธาตุอาหารอย่างรวดเร็ว: ปุ๋ยทางใบสามารถให้ธาตุอาหารแก่พืชได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบได้ภายในเวลาอันสั้น จึงเหมาะสำหรับการแก้ไขภาวะขาดธาตุอาหารของพืชที่แสดงอาการผิดปกติอย่างเร่งด่วน เช่น ใบเหลือง ใบซีด หรือการเจริญเติบโตชะงักงัน
  • การเสริมการให้ปุ๋ยทางดิน: ปุ๋ยทางใบสามารถใช้เสริมประสิทธิภาพของการให้ปุ๋ยทางดิน โดยเฉพาะในสภาวะที่พืชอาจดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ไม่ดี เช่น ในสภาพดินเย็น ดินเป็นกรด-ด่างจัด หรือดินที่มีความชื้นสูงหรือต่ำเกินไป การให้ปุ๋ยทางใบจะช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการ แม้ในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดูดซึมทางราก
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ธาตุอาหาร: ในบางกรณี การให้ธาตุอาหารทางใบอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่าการให้ทางดิน โดยเฉพาะธาตุอาหารที่ไม่เคลื่อนที่ในดินได้ดี หรือธาตุอาหารที่อาจถูกตรึงในดิน การให้ปุ๋ยทางใบจะช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารโดยตรง ลดการสูญเสียธาตุอาหารในดิน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ธาตุอาหารโดยรวม
  • การส่งเสริมคุณภาพผลผลิต: การให้ปุ๋ยทางใบในช่วงระยะพัฒนาผลผลิต สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิต เช่น ขนาด น้ำหนัก สีสัน รสชาติ และความทนทานต่อการเก็บรักษา โดยเฉพาะธาตุอาหารโพแทสเซียมและจุลธาตุ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพผลผลิต
  • การลดต้นทุนและปริมาณการใช้ปุ๋ย: ในบางกรณี การใช้ปุ๋ยทางใบอย่างเหมาะสม สามารถช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยทางดินลงได้ เนื่องจากการให้ปุ๋ยทางใบมีความแม่นยำ และพืชสามารถใช้ประโยชน์จากธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อจำกัดและข้อควรระวังของปุ๋ยทางใบ

  • ปริมาณธาตุอาหารที่ให้ได้จำกัด: ปุ๋ยทางใบโดยทั่วไปให้ธาตุอาหารแก่พืชได้ในปริมาณที่จำกัดต่อครั้ง เนื่องจากพื้นที่ผิวใบมีจำกัด และการให้ปุ๋ยทางใบในความเข้มข้นสูงเกินไปอาจทำให้ใบไหม้ ดังนั้น ปุ๋ยทางใบจึงไม่สามารถทดแทนการให้ปุ๋ยทางดินสำหรับการให้ธาตุอาหารหลักในปริมาณมาก
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดใบไหม้: การใช้ปุ๋ยทางใบในความเข้มข้นสูงเกินไป โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน แสงแดดจัด หรือพืชอ่อนแอ อาจทำให้ใบพืชเกิดอาการไหม้ หรือเป็นจุดด่าง ควรใช้ปุ๋ยทางใบในความเข้มข้นที่แนะนำ และหลีกเลี่ยงการพ่นในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม
  • ผลกระทบจากสภาพแวดล้อม: ประสิทธิภาพของปุ๋ยทางใบอาจได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อม เช่น ความชื้นสัมพัทธ์ อุณหภูมิ แสงแดด และลม ในสภาพอากาศแห้งแล้ง ร้อนจัด หรือมีลมแรง สารละลายปุ๋ยทางใบอาจระเหยเร็วเกินไป ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ไม่เต็มที่ ควรพ่นปุ๋ยทางใบในสภาพอากาศที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ไม่ใช่ปุ๋ยหลัก: ปุ๋ยทางใบมีบทบาทเป็นปุ๋ยเสริม ไม่สามารถทดแทนปุ๋ยหลักที่ให้ทางดิน ซึ่งเป็นแหล่งธาตุอาหารหลักสำหรับพืช การให้ปุ๋ยทางใบควรใช้ควบคู่ไปกับการให้ปุ๋ยทางดินอย่างเหมาะสม เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารครบถ้วนและสมดุล

ข้อควรรู้ ก่อนการใช้งาน

1 จุดประสงค์ในการ ใช้ปุ๋ยทางใบนั้น ใช้เพื่อเสริมธาตุอาหาร อย่างเร่งด่วนให้กับพืช ไม่ใช่เพื่อ
ทดแทนการให้ปุ๋ยแบบปกติทางดินโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็แล้วแต่ การให้ปุ๋ยทางดินเพื่อให้พืชดูดซึม
อาหารผ่านทางราก ก็ยังเป็นวิธีการหลักเช่นเดิมในการให้อาหารแก่พืช
2 ค่า PH หรือค่าความเป็นกรดเป็นด่างของสารละลาย มีผลต่อประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหาร
ของพืช
3 การใช้สารจับใบ จะช่วยให้ การให้ปุ๋ยทางใบมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะ กับพืชที่ใบมีความมัน
4 ช่วงเวลาในการฉีดปุ๋ยประเภทนี้ที่ดีที่สุด ก็คือ ช่วงเวลาที่พืชเปิดปากใบ หรือในช่วงเช้านั่นเอง
5 ควรเลือกใช้หัวฉีด ที่สร้างละอองขนาดเล็ก เพื่อให้ ละอองปุ๋ย สามารถยึดเกาะ บนผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น

แนวทางการใช้ปุ๋ยทางใบอย่างเหมาะสม

  • เลือกชนิดและสูตรปุ๋ยทางใบให้เหมาะสม: เลือกชนิดและสูตรปุ๋ยทางใบให้เหมาะสมกับชนิดพืช ระยะการเจริญเติบโต และวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น เลือกปุ๋ยทางใบที่มีธาตุอาหารเฉพาะเจาะจงเพื่อแก้ไขภาวะขาดธาตุอาหาร หรือเลือกปุ๋ยทางใบสูตรเสมอเพื่อบำรุงพืชทั่วไป
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์: อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ปุ๋ยทางใบอย่างละเอียด ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราส่วนการผสม วิธีการใช้ ข้อควรระวัง และคำแนะนำอื่นๆ ที่ระบุโดยผู้ผลิต ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยทางใบ
  • ผสมปุ๋ยทางใบในความเข้มข้นที่ถูกต้อง: ผสมปุ๋ยทางใบกับน้ำสะอาดในอัตราส่วนที่แนะนำ การใช้ปุ๋ยทางใบในความเข้มข้นสูงเกินไป อาจทำให้เกิดใบไหม้ หรือความเสียหายต่อพืช ควรใช้ภาชนะที่สะอาดในการผสมปุ๋ยทางใบ และคนให้ปุ๋ยละลายเข้ากันดีกับน้ำ
  • พ่นปุ๋ยทางใบให้ทั่วถึง: พ่นสารละลายปุ๋ยทางใบให้ทั่วถึงบริเวณใบและส่วนสีเขียวอื่นๆ ของพืช เน้นบริเวณใต้ใบ ซึ่งมีปากใบจำนวนมาก พ่นให้เป็นละอองฝอยเล็กๆ และสม่ำเสมอ จนใบเปียกชุ่มพอดี ไม่ถึงกับไหลหยด
  • เลือกช่วงเวลาและสภาพอากาศที่เหมาะสม: พ่นปุ๋ยทางใบในช่วงเวลาเช้าตรู่ หรือช่วงเย็น ที่อากาศไม่ร้อนจัด แสงแดดไม่แรง และไม่มีลมแรง สภาพอากาศที่เหมาะสมจะช่วยลดการระเหยของสารละลายปุ๋ยทางใบ และเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม
  • หลีกเลี่ยงการพ่นปุ๋ยทางใบในช่วงดอกบาน: การพ่นปุ๋ยทางใบในช่วงดอกบาน อาจรบกวนการผสมเกสร และส่งผลกระทบต่อการติดผล ควรหลีกเลี่ยงการพ่นปุ๋ยทางใบในช่วงดอกบาน หากไม่จำเป็น
  • ทดสอบก่อนใช้ในพื้นที่กว้าง: หากเป็นการใช้ปุ๋ยทางใบชนิดใหม่ หรือใช้กับพืชที่ไม่เคยใช้มาก่อน ควรทดลองใช้ในพื้นที่เล็กๆ ก่อน เพื่อสังเกตการตอบสนองของพืช และปรับวิธีการใช้ให้เหมาะสม ก่อนนำไปใช้ในพื้นที่กว้าง
  • ใช้ควบคู่กับการจัดการธาตุอาหารทางดิน: ปุ๋ยทางใบควรใช้เสริมกับการจัดการธาตุอาหารทางดิน ไม่ควรใช้ปุ๋ยทางใบทดแทนการให้ปุ๋ยทางดินโดยสมบูรณ์ การให้ปุ๋ยทางดินอย่างเหมาะสมยังคงเป็นพื้นฐานสำคัญของการบำรุงพืช

ตัวอย่างปุ๋ยทางใบที่นิยมใช้

  • ปุ๋ยเกล็ดทางใบสูตรต่างๆ: เช่น สูตร 20-20-20 (สูตรเสมอ) สูตร 30-10-10 (สูตรไนโตรเจนสูง) สูตร 10-52-17 (สูตรฟอสฟอรัสสูง) เป็นปุ๋ยทางใบเคมีที่ละลายน้ำได้ดี ให้ธาตุอาหารหลักในสัดส่วนต่างๆ กัน เหมาะสำหรับการบำรุงพืชในระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโต
  • ปุ๋ยน้ำทางใบสูตรเฉพาะพืช: ปุ๋ยน้ำทางใบที่ผลิตขึ้นสำหรับพืชแต่ละชนิดโดยเฉพาะ เช่น ปุ๋ยน้ำทางใบสำหรับข้าว ปุ๋ยน้ำทางใบสำหรับไม้ผล ปุ๋ยน้ำทางใบสำหรับผัก ปุ๋ยเหล่านี้มักมีสัดส่วนธาตุอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด
  • สารสกัดสาหร่ายทะเล: เป็นปุ๋ยทางใบอินทรีย์ที่ได้จากสารสกัดจากสาหร่ายทะเล มีธาตุอาหารรอง จุลธาตุ และสารกระตุ้นการเจริญเติบโตจากธรรมชาติ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต และเพิ่มความต้านทานโรคและแมลง
  • กรดอะมิโนทางใบ: เป็นปุ๋ยทางใบอินทรีย์ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนหลากหลายชนิด ช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีนในพืช และช่วยให้พืชฟื้นตัวจากสภาวะเครียดได้เร็วขึ้น
  • ฮอร์โมนพืชทางใบ: เป็นผลิตภัณฑ์ปุ๋ยทางใบที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนพืช เช่น ออกซิน ไซโทไคนิน หรือจิบเบอเรลลิน ใช้เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตในด้านต่างๆ ตามชนิดของฮอร์โมน

กำลังมองหา ปุ๋ยน้ำ ที่ได้มาตรฐาน ไปเพิ่มผลผลิต ของท่านอยู่รึเปล่า?
สั่งซื้อได้ที่นี่เลย สินค้าทุกตัวขึ้นทะเบียนถูกต้อง ตามกฎหมาย
ที่ร้านของเรา มีใบอนุญาติจำหน่ายถูกต้องตามกฎหมายค่ะ

หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ

เพิ่มเพื่อน

error: Content is protected !!