มกราคม 15, 2025

Blog

ปลูกแตงกวา ไม่ยากเลย มือใหม่หัดปลูกผักก็ทำได้

คลังบทความ
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

Last Updated on มกราคม 9, 2025 by admin

แตงกวา (Cucumber) เป็นผักที่นิยมบริโภคกันทั่วโลก มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย จัดอยู่ในวงศ์ Cucurbitaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับแตงโม ฟักทอง บวบ และมะระ ด้วยรสชาติที่กรอบ สดชื่น และมีน้ำมาก ทำให้แตงกวาเป็นที่นิยมในการรับประทานสด ประกอบอาหาร และนำไปแปรรูป
แตงกวา คือผักสวนครัว ยอดนิยมอีกชนิด เนื่องจาก อยู่ในเมนูอาหารมากมาย ปลูกขายก็ได้ เนื่องจากมีความต้องการซื้อสูง ปลูกกินเองก็ดี ข้อดี ของการปลูกแตงกว่าก็คือ ใช้เวลาปลูกไม่นาน ก็ได้ผลผลิตแล้วนะ

สิ่ง ที่ต้องเตรียม ในการ ปลูกแตงกวา

1 เมล็ดพันธุ์แตงกวา ควรเลือกใช้ แบรนด์ ที่ได้มาตรฐาน สะอาด ไม่เก่าเก็บ ก่อนซื้อควรตรวจดู วันหมดอายุ ที่ซองด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการงอก และท่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปล่า ที่ใช้เมล็ดพันธุ์ราคาถูก แต่เพาะแล้วไม่ขึ้น
อ่อ แตงกวามีหลายสายพันธุ์ อย่าลืมดูรายละเอียดที่ซอง ด้วยล่ะ ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ท่านต้องการปลูก
2 ถาดหลุมหรือถุงเพาะ สำหรับเอาไว้ใช้เพาะเมล็ด
3 ดินปลูกต้นไม้ จะผสมเองก็ได้หากมีความรู้ในการผสมดิน หรือ หากใครไม่มีเวลาผสมเอง ซื้อเอาสำเร็จจากร้านค้า
ที่ขายดินปลูกต้นไม้เลยก็ได้ ขอให้เลือกสูตร ที่เนื้อดินโปร่ง ไม่เหนียวจับตัวเป็นก้อน
4 กาบมะพร้าวสับ เอาไว้ลองด้านใต้หลุม ก่อนเพาะ

ขั้นตอนการปลูกแตงกวา

1 นำกาบมะพร้าวสับ หยอดลง ใน หลุมเพาะหรือถุงเพาะรองไว้ด้านใต้ เพื่อเพิ่มการระบายน้ำ และช่วยให้
เวลาย้ายต้นกล้า ลงแปลงปลูกหรือกระถางใหญ่ทำได้ง่าย
2 นำดินปลูกต้นไม้ที่เตรียมไว้ เทลงใน ถุงเพาะหรือหลุมเพาะ
3 หยอดเมล็ดพันธุ์ แตงกวา ลงไป จุดละ 2-3 เมล็ด เผื่อไว้ ว่า อาจจะไม้งอกขึ้นมาทุกเมล็ด แล้วโรย
ดินกลบเมล็ด จากนั้น รดน้ำตามให้ชุ่ม
4 นำถุงเพาหรือถาดเพาะ ไปวางไว้ในที่ที่ มีแสงแดดอ่อน จากนั้น รอเวลา ให้ เมล็ดงอกขึ้นมาเป็นต้นอ่อน
5 ระหว่างที่รอเมล็ดงอกขึ้นมาเป็นต้นกล้า ควรรดน้ำ ทุกวัน เช้า-เย็น
6 เพียงแค่ 2-3 วัน ท่านควรจะเห็น ต้นอ่อนงอกขึ้นมาพ้นจากดิน ในระหว่างนี้ก็ยังควรให้น้ำ อย่างสม่ำเสมอ
แต่ควรระมัดระวัง ไม่รดน้ำ ใส่ต้นอ่อนแรงๆ เพราะอาจจะทำให้ ต้นอ่อนล้มหรือ หัก
อาจจะใช้เป็น ฟ๊อกกี้ ฉีดน้ำ เป็นละอองแทน ก็ได้
7 เมื่อ ต้นอ่อนแตงกวา โตขึ้นและเริ่มกางใบ เป็นช่วงที่ควรระวัง ศัตรูพืช จะเข้ากัดกิน อย่าลืม ฉีดพ่น สารชีวภัณฑ์
ป้องกันเอาไว้ด้วย ต้นอ่อนแตงกวา = ของชอบของแมลงปากดูด
8 หลังจากเห็นต้นแตงกวา แตกยอดอ่อน ก็ถึงเวลา ที่จะย้าย ลงในแปลงปลูก หรือในกระถางที่มีขนาดใหญ่
9 การย้ายให้ใช้ ไม้ ดันที่ ก้นบริเวณที่มีการใช้กาบมะพร้าวสับ รองไว้ ควรระมัดระวัง ไม่ให้ รากของต้นแตงกวา
ขาดหรือเสียหาย
10 ควรทำค้าง ไว้ด้านบนบริเวณแปลงปลูก อาจจะใช้ วัศดุอย่างเช่น ท่อพีวีซี
11 ในช่วงที่ แตงกวา ตั้งต้นได้แล้ว อย่าลืม เติมสารอาหาร เช่นปุ๋ยหมัก หรือ มูลไส้เดือน ลงไปด้วย เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโต
12 เมื่อต้นแตงกวา ยอดเริ่มสูงขึ้น และเริ่มเรื่อยขึ้นไปบนค้าง ก็หา เชือกมาผูกไว้กับค้าง
เพื่อให้ ยอดของต้นเลื้อยขึ้นด้านบน ตามที่ท่านต้องการ
13 การติดดอก ของแตงกวา ใช้เวลาเพียง 25วัน ก็จะเห็นดอก และเริ่มมีการติดผลแตงกวาขึ้นมา
หากต้องการ เร่งดอก ก็สามารถ ใช้ปุ๋ยที่มี ส่วนผสมของฟอสฟอรัส สูงได้ ในช่วงนี้

สายพันธุ์ของแตงกวา

แตงกวาแบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ ซึ่งมีลักษณะและรสชาติแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น:

  • แตงกวาญี่ปุ่น: ผลเรียวยาว ผิวเรียบ เนื้อแน่น กรอบ
  • แตงกวาไร้เมล็ด: ผลยาว ผิวเรียบ ไม่มีเมล็ด
  • แตงกวาอังกฤษ: ผลยาว ผิวเรียบ เนื้อกรอบ รสชาติหวานเล็กน้อย
  • แตงร้าน: ผลป้อมสั้น ผิวขรุขระ มีหนาม

คุณค่าทางโภชนาการ

แตงกวาประกอบด้วยน้ำถึง 96% ทำให้มีแคลอรี่ต่ำและให้ความสดชื่น นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ ดังนี้:

  • วิตามิน: วิตามินเค (ช่วยในการแข็งตัวของเลือด), วิตามินซี (เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน), วิตามินเอ (บำรุงสายตา)
  • แร่ธาตุ: โพแทสเซียม (ควบคุมความดันโลหิต), แมกนีเซียม (บำรุงระบบประสาทและกล้ามเนื้อ), แมงกานีส (ช่วยในการทำงานของเอนไซม์), ซิลิกา (บำรุงผิวพรรณ)
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: เช่น ฟลาโวนอยด์ ลิกแนน และไตรเทอร์พีนอยด์
  • ใยอาหาร: ช่วยในการขับถ่าย

ประโยชน์ต่อสุขภาพ

ให้ความชุ่มชื้น: ปริมาณน้ำที่สูงในแตงกวาช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
บำรุงผิวพรรณ: ซิลิกาและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส
ลดความดันโลหิต: โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต
ส่งเสริมระบบขับถ่าย: ใยอาหารช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูก
ต้านการอักเสบ: สารต้านอนุมูลอิสระมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: มีงานวิจัยบางส่วนที่แสดงให้เห็นว่าแตงกวาอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ บำรุงกระดูก: วิตามินเคมีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูก

กระบวนการ ตั้งแต่เริ่ม จนเก็บผลผลิต ได้ของแตงกวา ใช้เวลาแค่เพียงประมาณ 35 วัน เท่านั้น ปลูกก็ไม่ยาก
ท่านก็สามารถ ที่จะได้ผลผลิต แตงกวา สดๆ กรอบอร่อย ที่ท่านต้องการ อย่าลืม ลองนำขั้นตอนเหล่านี้ไปใช้กันดูนะ

อยากปลูกแตงกวาให้ ได้ผลผลิตที่แข็งแรง ปลูกง่ายโตไว ต้องเริ่มต้น ที่เลือกใช้
เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ สั่งซื้อ เมล็ดพันธุ์ แตงกวาได้ที่นี่เลย

หากไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ผ่านระบบในเว็บไซต์ กรุณาโทร 095-5419953 หรือ แอดไลน์ @luckyworm
แอดมินของเรายินดีให้บริการค่ะ

เพิ่มเพื่อน

error: Content is protected !!